ค้นพบและสำรวจ: วิธีเยี่ยมชม 10 สถานที่ที่น่าถ่ายรูปลง Instagram มากที่สุดในฮ่องกง

ฮ่องกงเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวา ขึ้นชื่อเรื่องตึกระฟ้าที่น่าประทับใจ บรรยากาศที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม และภูมิประเทศที่น่าทึ่ง นอกจากนี้ยังเป็นสวรรค์ของนัก Instagrammer ที่มีสถานที่มากมายที่จับภาพเสน่ห์และพลังที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองได้ ในคู่มือนี้ เราจะสำรวจ 10 จุดที่น่าถ่ายรูปลง Instagram มากที่สุดในฮ่องกง และให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับวิธีการเยี่ยมชม The Peak - การนำเสนอวิวแบบพาโนรามาเหนือเส้นขอบฟ้าของฮ่องกง The Peak คือจุดที่สูงที่สุดของเมืองและเป็นสถานที่ที่ห้ามพลาด วิธีที่ดีที่สุดในการเดินทางไปที่นั่นคือการนั่ง Peak Tram การเดินทางก็สวยงามเหมือนกับจุดหมายปลายทางเลย Temple Street Night Market - เป็นที่รู้จักจากบรรยากาศที่คึกคักและแผงขายของที่มีสีสัน ตลาดแห่งนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการจับภาพชีวิตบนท้องถนนที่มีชีวิตชีวาของเมือง เยี่ยมชมในตอนเย็นเพื่อจับภาพแสงสีที่สดใสและฝูงชนที่มีชีวิตชีวา Montane Mansion - อาคารที่พักอาศัยที่มีชื่อเสียงแห่งนี้มีชื่อเสียงในด้านอพาร์ตเมนต์ที่มีผู้คนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นและมีสีสัน ซึ่งสร้างเอฟเฟกต์ที่น่าหลงใหล ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเนื่องจากสุนทรียภาพทางสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ Nan Lian Garden - สวนสวยแห่งนี้เป็นที่หลีกหนีจากความวุ่นวายในเมือง ต้นไม้ที่ได้รับการดูแลอย่างดีเยี่ยม บ่อน้ำที่เงียบสงบ และสถาปัตยกรรมจีนคลาสสิก ทำให้ได้ภาพถ่ายที่งดงาม Lion Rock - สำหรับผู้ที่เต็มใจที่จะออกแรงสักหน่อย ยอดเขา Lion Rock มอบทัศนียภาพอันน่าทึ่งเหนือเมือง การเดินป่าใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ไปกลับ ดังนั้นเตรียมตัวให้พร้อม! Man Mo Temple - วัดที่เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งนี้เต็มไปด้วยธูปขดลวดที่สูงตระหง่านและอาบไปด้วยแสงสีอบอุ่นที่สวยงาม เหมาะสำหรับภาพที่แสดงอารมณ์และความรู้สึก Choi Hung Estate - เป็นที่รู้จักได้ง่ายจากภายนอกอาคารสีรุ้ง Choi Hung Estate เป็นหนึ่งในโครงการที่อยู่อาศัยสาธารณะที่เก่าแก่และเป็นสัญลักษณ์ที่สุดในฮ่องกง...

เคล็ดลับสู่ความเป็นสุดยอดนักขาย: แผนงานสู่การเป็นพนักงานขายที่ประสบความสำเร็จ

การขายเป็นวงการที่กระตือรือร้นและมีการแข่งขันสูง แถมยังมีโอกาสมากมายให้เติบโตและก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ที่สำคัญสุด ๆ คือใคร ๆ ที่มีทักษะและทัศนคติที่ใช่ก็เป็นนักขายที่ประสบความสำเร็จได้ทั้งนั้นแหละ ความสำเร็จในการขายไม่ได้เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืนนะ มันต้องใช้ความพยายาม ความอดทน และกลยุทธ์ มาดูกันว่าต้องทำยังไงบ้างถึงจะเป็นนักขายที่ปังปุริเย่: เรียนรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการ: ความรู้ที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณสำคัญมากนะจ๊ะ นี่หมายถึงต้องเข้าใจทุกฟีเจอร์ ข้อดีข้อเสียที่อาจเกิดขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่คุณขาย ยิ่งรู้เยอะ ก็ยิ่งตอบคำถามลูกค้าได้เคลียร์ แก้ข้อสงสัยได้สบาย แถมยังเน้นย้ำคุณค่าของผลิตภัณฑ์ได้แบบมั่นใจ เข้าใจตลาดของคุณ: การรู้จักกลุ่มเป้าหมายของคุณสำคัญพอ ๆ กับการรู้จักผลิตภัณฑ์เลยนะ ต้องศึกษาความต้องการ ความชอบ และปัญหาของพวกเขา แบ่งกลุ่มเป้าหมาย แล้วปรับวิธีการขายให้เข้ากับความต้องการเฉพาะของแต่ละกลุ่ม จะช่วยให้คุณเข้าถึงและโน้มน้าวใจได้ง่ายขึ้นเยอะ พัฒนากลยุทธ์การขาย: กลยุทธ์สำคัญสุด ๆ ในการขาย ต้องตั้งเป้าหมายที่เป็นจริง วางแผนการกระทำ ติดตามความคืบหน้า และปรับกลยุทธ์ตามความเหมาะสม กลยุทธ์ที่คิดมาดี ๆ จะช่วยให้คุณมีสมาธิ มุ่งมั่น และเน้นผลลัพธ์ พัฒนาทักษะการสื่อสาร: การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพคือหัวใจของการขาย นักขายที่เก่งกาจต้องสื่อสารข้อมูลได้ชัดเจน สร้างความสัมพันธ์ ต่อรอง จัดการข้อโต้แย้ง และโน้มน้าวลูกค้าได้ ปรับปรุงทักษะการสื่อสารของคุณโดยตั้งใจฟัง ถามคำถามที่ใช่ และพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ ยอมรับการถูกปฏิเสธ: การถูกปฏิเสธเป็นเรื่องธรรมดาของการขาย อย่าเก็บมาใส่ใจ เรียนรู้จากมันเพื่อปรับปรุงวิธีการของคุณ การจัดการกับการถูกปฏิเสธในเชิงบวกจะสร้างความยืดหยุ่นและความอดทน ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่จำเป็นสำหรับนักขายที่ประสบความสำเร็จ อัพเดทอยู่เสมอ: ตลาด ลูกค้า และเทคนิคการขายมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ตามให้ทันเทรนด์ในวงการ เครื่องมือและเทคนิคการขายสมัยใหม่ เพื่อให้คุณแข่งขันได้ ดูแลตัวเอง: สุดท้าย การรักษาสุขภาพกายและใจที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ การขายอาจทำให้เครียดได้ ดังนั้นให้หากิจกรรมคลายเครียด กินอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายเป็นประจำ...

สำรวจยุโรป - วิธีการเดินทางที่สร้างสรรค์ นอกเหนือจากการเดินทางทางอากาศ

ยุโรปเป็นทวีปที่น่าทึ่ง เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความสวยงาม การเดินทางรอบยุโรปมักจะทำกันโดยเครื่องบินเพราะมันรวดเร็ว แต่ถ้าคุณต้องการสำรวจทวีปนี้โดยไม่ใช้เครื่องบินที่ปล่อยคาร์บอนล่ะ? ในโพสต์นี้ เราจะเจาะลึกวิธีการเดินทางต่างๆ ที่คุณสามารถใช้เพื่อเดินทางในยุโรปโดยไม่ใช้เครื่องบินได้เลย 1. การเดินทางโดยรถไฟ ยุโรปมีเครือข่ายรถไฟที่กว้างขวาง ซับซ้อน และมีประสิทธิภาพ ซึ่งครอบคลุมทั่วยุโรปเลยนะ! ซึ่งรวมถึงรถไฟความเร็วสูง เช่น TGV ของฝรั่งเศสและ AVE ของสเปน ทำให้สามารถเดินทางในระยะทางไกลๆ ได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมงโดยไม่ต้องขึ้นเครื่องบิน Eurail Pass เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการเดินทางด้วยรถไฟ ให้ความยืดหยุ่นในการเดินทางใน 31 ประเทศเลยนะ 2. การเดินทางโดยรถบัส ด้วยบริษัทรถโดยสารระหว่างเมืองจำนวนมากที่ให้บริการทั่วยุโรป การเดินทางโดยรถบัสจึงเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า บริษัทต่างๆ เช่น FlixBus ให้บริการเครือข่ายที่กว้างขวางในหลายประเทศ และบ่อยครั้ง การเดินทางข้ามคืนสามารถช่วยประหยัดเงินค่าที่พักได้ด้วยนะ 3. การเช่ารถ การเช่ารถช่วยให้คุณมีความยืดหยุ่นสูงสุด เหมาะสำหรับการสำรวจเมืองและหมู่บ้านเล็กๆ หรือสำหรับการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่อยู่นอกเมืองใหญ่ๆ แค่จำกัดเขตภูมิภาคกับบริษัทให้เช่าบางแห่งด้วยนะ 4. การล่องเรือ เส้นทางทะเลมักถูกมองข้ามในการเดินทางในยุโรป แต่นำเสนอเส้นทางตามแนวชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทะเลเหนือ และมหาสมุทรแอตแลนติก สำหรับการเดินทางพักผ่อน การล่องเรือตามแม่น้ำ เช่น แม่น้ำดานูบ แม่น้ำไรน์ และแม่น้ำแซน นำเสนอทิวทัศน์ที่สวยงามและแวะพักในเมืองคลาสสิกของยุโรป 5. การปั่นจักรยาน ถ้าคุณชอบผจญภัยหน่อย ลองพิจารณาการปั่นจักรยานดูสิ ยุโรปขึ้นชื่อเรื่องเมืองที่เป็นมิตรต่อการปั่นจักรยาน เช่น อัมสเตอร์ดัมและโคเปนเฮเกน และยังมีเส้นทางปั่นจักรยานระยะไกลมากมายที่ทอดยาวทั่วยุโรปด้วยนะ 6. การเดิน สำหรับการเดินทางในระยะทางสั้นๆ หรือถ้าคุณต้องการดื่มด่ำกับภาพ เสียง และกลิ่นทั้งหมดของเมือง การเดินทางด้วยเท้าก็เป็นอะไรที่ดีที่สุดแล้ว หลายเมืองในยุโรปเป็นมิตรกับคนเดินเท้า มีใจกลางเมืองที่เดินได้ และมีระบบขนส่งสาธารณะเมื่อคุณต้องการพักผ่อน...

วิธีลดน้ำหนักโดยไม่ออกกำลังกาย

การลดน้ำหนักหลักๆ เลยคือการสร้างภาวะขาดแคลอรี่ คือการเผาผลาญแคลอรี่ให้มากกว่าที่กินเข้าไป แต่ถึงแม้ว่าการออกกำลังกายจะเป็นวิธีที่ฮิตที่สุดในการสร้างภาวะนี้ มันก็ไม่ใช่ทางเดียวซะหน่อย ยังมีการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตและอาหารการกินอีกหลายอย่างที่เราเอามาใช้ลดน้ำหนักได้โดยไม่ต้องออกกำลังกายหนักๆ มาดูวิธีง่ายๆ กันดีกว่า: 1. สร้างภาวะขาดแคลอรี่: อยากผอมก็ต้องกินแคลอรี่ให้น้อยกว่าที่ร่างกายเผาผลาญในแต่ละวัน เริ่มจากคำนวณดูก่อนว่าปกติเราเผาผลาญไปวันละเท่าไหร่ แล้วก็ตั้งเป้ากินให้น้อยกว่านั้น มีเครื่องคิดเลขออนไลน์ให้ใช้เพียบเลย ลองหาดูนะ 2. กินอาหารให้สมดุล: เน้นโปรตีนไม่ติดมัน, ผลไม้, ผัก, แล้วก็ธัญพืชเต็มเมล็ด อาหารพวกนี้จะช่วยให้อิ่มท้องนาน คุมความอยากอาหารได้ แถมยังมีสารอาหารเยอะกว่าพวกอาหารแปรรูปด้วย 3. คุมปริมาณอาหาร: ใส่ใจกับปริมาณอาหารในแต่ละมื้อ แม้แต่ของดีมีประโยชน์ ถ้ากินเยอะเกินไปก็อ้วนได้เหมือนกันนะ 4. ดื่มน้ำเยอะๆ: การดื่มน้ำเยอะๆ ก็ช่วยลดน้ำหนักได้นะ บางทีเราก็เข้าใจผิดว่าหิวน้ำเป็นหิวข้าว ทำให้กินเยอะเกินไป ดื่มน้ำเยอะๆ ช่วยได้ 5. นอนให้พอ: การนอนมีผลกับการควบคุมน้ำหนักมากนะ นอนไม่พอจะทำให้ระบบเผาผลาญรวน แล้วก็อยากอาหารมากขึ้นด้วย 6. จัดการความเครียด: เครียดมากๆ ก็ทำให้อ้วนได้ เพราะมันจะพาเราไปกินเยอะ โดยเฉพาะของหวานๆ มันๆ 7. จำกัดแอลกอฮอล์: แอลกอฮอล์ก็เป็นตัวการทำให้อ้วนได้นะ แคลอรี่สูง แถมยังทำให้เจริญอาหาร ลดการยับยั้งชั่งใจ ทำให้กินเยอะเกินไปอีก ลองเอาเคล็ดลับเหล่านี้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันดูนะ จะช่วยสร้างภาวะขาดแคลอรี่ได้อย่างยั่งยืน และนำไปสู่การลดน้ำหนักในที่สุด แต่ก็ต้องจำไว้ว่าร่างกายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน อาจจะตอบสนองต่อวิธีเหล่านี้แตกต่างกันไป ปรึกษาคุณหมอก่อนเริ่มแผนลดน้ำหนักทุกครั้งนะ

วิธีกินอาหารให้ดีต่อสุขภาพได้ทุกวัน

การกินอาหารให้ดีต่อสุขภาพทุกวันคือการเลือกกินอย่างตั้งใจ โดยเน้นอาหารที่มีสารอาหารเยอะ ๆ และกินให้สมดุลกัน นี่คือเคล็ดลับง่าย ๆ: กินให้หลากหลาย: ไม่มีอาหารอย่างเดียวที่ให้สารอาหารครบที่เราต้องการ พยายามกินโปรตีน, ธัญพืชไม่ขัดสี, ผักผลไม้, และไขมันดี ให้หลากหลายในแต่ละวันนะ เลี่ยงอาหารแปรรูป: อาหารแปรรูปมักจะมีน้ำตาล, ไขมันไม่ดี, และโซเดียมเยอะมาก เปลี่ยนมากินอาหารสด ๆ ที่ไม่ผ่านการแปรรูปจะดีกว่าเยอะเลย คุมปริมาณ: ดูปริมาณอาหารที่เรากินด้วย จะได้ไม่กินเยอะเกินไป แม้แต่จะเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพก็ตาม ดื่มน้ำเยอะ ๆ: น้ำสำคัญมากต่อร่างกายของเรา พยายามดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว วางแผนมื้ออาหาร: ถ้าเราวางแผนมื้ออาหารไว้ก่อน จะช่วยให้เรากินอาหารได้สมดุล และไม่เผลอกินอะไรที่ไม่ดีต่อสุขภาพตอนหิว ๆ หรือรีบ ๆ ห้ามอดมื้อเช้า: การอดอาหารจะทำให้เรากินเยอะเกินไปในมื้อต่อไป พยายามกินอาหารให้ครบ 3 มื้อ และมีขนม healthy ๆ กินระหว่างมื้อด้วยนะ ลดน้ำตาล: อาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเยอะ ๆ จะทำให้อ้วน และทำให้เกิดโรคเบาหวานหรือโรคหัวใจได้ ระวังโซเดียม: กินโซเดียมเยอะเกินไปจะทำให้ความดันขึ้น ทำให้เสี่ยงเป็นโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง จำไว้ว่าไม่จำเป็นต้อง perfect ขนาดนั้น แค่เลือกกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพให้บ่อยขึ้นก็พอแล้ว กินของชอบบ้างก็ได้นาน ๆ ที แต่อย่ากินบ่อยจนเกินไปนะ นอกจากนี้ การกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายเป็นประจำ จะช่วยให้สุขภาพโดยรวมของเราดีขึ้นด้วย ถ้ามีข้อจำกัดด้านอาหาร หรือมีโรคประจำตัว ควรปรึกษา นักโภชนาการ เพื่อขอคำแนะนำส่วนตัวนะ

วิธีป้องกันผมร่วง

ผมร่วงนี่เป็นปัญหาใหญ่ของทั้งผู้ชายและผู้หญิงเลยนะ แถมบางทียังทำให้ความมั่นใจในตัวเองลดลงอีกด้วย แต่ไม่ต้องห่วง เพราะมีวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยลดผมร่วงและทำให้ผมแข็งแรงได้ มาดูเคล็ดลับป้องกันผมร่วงกัน กินอาหารให้ครบ: กินอาหารที่มีธาตุเหล็ก วิตามินเอ วิตามินซี และโปรตีนเยอะ ๆ จะช่วยกระตุ้นให้ผมยาวเร็วขึ้น อย่าทำผมทรงที่ตึงเกินไป: พวกทรงผมที่ถักเปียคอร์นโรว์ หรือมัดผมหางม้าแน่น ๆ อาจทำให้เกิดผมร่วงจากแรงดึงได้นะ เลี่ยงความร้อนและผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม: ใช้ความร้อนกับผมเยอะไป หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีเยอะ ๆ ก็ทำร้ายผมได้ ดื่มน้ำเยอะ ๆ: น้ำช่วยให้ผมและหนังศีรษะชุ่มชื้น ซึ่งสำคัญต่อสุขภาพผมมาก ๆ ออกกำลังกายเป็นประจำ: การออกกำลังกายช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ซึ่งจะกระตุ้นการงอกของเส้นผม ถ้าผมร่วงเยอะมาก แนะนำให้ไปหาหมอนะ เพราะอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ได้

วิธีเริ่มต้นใช้งาน VIM editor

VIM หรือ Vi IMproved เนี่ยนะ เป็น text editor ที่ปรับแต่งได้เยอะมาก สร้างมาเพื่อให้การสร้างและแก้ไข text อะไรก็ตามมีประสิทธิภาพสุด ๆ ซึ่งมันก็มีมาให้แล้วในชื่อ “vi” ในระบบ UNIX ส่วนใหญ่ รวมถึง Apple macOS ด้วยนะ ถ้าจะเริ่มใช้ VIM editor สิ่งแรกที่ต้องเข้าใจเลยคือ mode การทำงานของมัน: Normal mode: Mode นี้เอาไว้แก้ไขและ navigate กด ESC ใน mode ไหนก็ได้ หรือเปิด vim มาก็จะเจอ mode นี้เลย Insert mode: Mode นี้เอาไว้พิมพ์ text เข้าไป จะเข้า mode นี้จาก normal mode ก็กด i เลย Command mode: Mode นี้เอาไว้พิมพ์ command จะเข้า mode นี้จาก normal mode ก็กด : เลย...

วิธีเขียนจดหมายสมัครงานที่ดี

จดหมายสมัครงานที่ดีสามารถเพิ่มโอกาสในการได้รับการสัมภาษณ์งานได้อย่างมาก นี่คือวิธีที่คุณสามารถสร้างจดหมายสมัครงานที่ยอดเยี่ยมได้: ส่วนหัว: เริ่มต้นด้วยรายละเอียดการติดต่อของคุณ ตามด้วยรายละเอียดการติดต่อของนายจ้าง คำขึ้นต้น: มองหาชื่อของผู้จัดการฝ่ายสรรหาเพื่อให้จดหมายสมัครงานของคุณเป็นส่วนตัวมากขึ้น หากคุณไม่พบชื่อของพวกเขา ‘เรียน ผู้จัดการฝ่ายสรรหา’ เป็นทางเลือกที่เหมาะสม ย่อหน้าเปิด: ดึงดูดความสนใจของผู้จัดการฝ่ายสรรหาตั้งแต่เริ่มต้น อธิบายว่าคุณสมัครงานอะไรและแสดงความกระตือรือร้นเกี่ยวกับบริษัทและตำแหน่งงาน ย่อหน้ากลาง: ในส่วนนี้ ให้รายละเอียดว่าทำไมคุณถึงเหมาะสมกับงานนี้ ใส่ประสบการณ์ คุณสมบัติ และทักษะที่เกี่ยวข้อง ใช้รายละเอียดงานเพื่อปรับส่วนนี้ให้เข้ากับตำแหน่ง ย่อหน้าปิด: ย้ำความสนใจของคุณในงานและบริษัท นอกจากนี้ ให้ระบุความเต็มใจที่จะหารือเกี่ยวกับคุณสมบัติของคุณเพิ่มเติมในการสัมภาษณ์ คำลงท้าย: ใช้คำลงท้ายที่เป็นทางการ เช่น ‘ขอแสดงความนับถือ’ หรือ ‘ด้วยความเคารพอย่างสูง’ ตามด้วยชื่อของคุณ อย่าลืมรักษาความเป็นมืออาชีพตลอดและทำให้จดหมายสมัครงานของคุณกระชับ โดยควรมีความยาวไม่เกินหนึ่งหน้า ตรวจทานจดหมายของคุณเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีข้อผิดพลาดทางไวยากรณ์หรือการพิมพ์ สำหรับภาพประกอบ ไดอะแกรม หรือตารางที่ซับซ้อน ให้พิจารณาอ้างอิงถึงสิ่งเหล่านั้น แต่อย่าใส่ไว้ในจดหมายสมัครงานของคุณโดยตรง เนื่องจากผู้สรรหาบางรายอาจไม่สามารถดูได้อย่างถูกต้อง จดหมายสมัครงานเป็นโอกาสของคุณในการสร้างความสัมพันธ์ส่วนตัวกับผู้จัดการฝ่ายสรรหา ดังนั้นตรวจสอบให้แน่ใจว่าจดหมายนั้นสะท้อนถึงบุคลิกภาพและความกระตือรือร้นของคุณที่มีต่อบทบาทนี้ หมายเหตุ: แม้ว่านี่จะเป็นแนวทางทั่วไป แต่ควรปรับจดหมายสมัครงานของคุณให้เข้ากับการสมัครงานนั้นๆ เสมอ บทบาทและบริษัทที่แตกต่างกันอาจต้องการส่วนที่เน้นที่แตกต่างกันในจดหมายสมัครงานของคุณ ขอให้โชคดีกับการสมัครงานของคุณนะ!

หาผลประโยชน์จาก Brexit ได้ยังไง?

คำถามเรื่องผลประโยชน์ของ Brexit เนี่ย ตอบยากอยู่นะ เพราะมันมีหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยว ขึ้นอยู่กับว่ามองข้อดีตรงไหนมากกว่า นี่คือข้อดีที่อาจจะเกิดขึ้นได้: ข้อตกลงทางการค้า: ตอนนี้ UK สามารถกำหนดนโยบายและข้อตกลงทางการค้าของตัวเองได้แล้วนะ ไม่ต้องผูกกับภาษีภายนอกของ EU อีกต่อไป ทำให้ลดกำแพงทางการค้ากับประเทศนอก EU ได้ด้วย นโยบายภายในประเทศ: Brexit ทำให้มีอิสระในการตัดสินใจเรื่องนโยบายในประเทศมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกรรม การประมง หรือการควบคุมชายแดน เงินสนับสนุน: UK ไม่ต้องจ่ายเงินสนับสนุนให้ EU แล้วนะ ซึ่งเงินพวกนี้เอาไปใช้จ่ายในประเทศ หรือลดภาษีก็ได้ อธิปไตย: เหตุผลหลักๆ ที่ Brexit เกิดขึ้นก็คือ อยากได้อธิปไตย หรืออำนาจในการควบคุมกฎหมายของประเทศคืนมา เพราะบางคนรู้สึกว่า EU เข้ามาก้าวก่ายมากเกินไป แต่ต้องบอกก่อนว่า ข้อดีที่ว่ามาก็มาพร้อมกับความท้าทายและความซับซ้อนนะ แล้วผลลัพธ์ที่ออกมาก็อาจจะแตกต่างกันไปได้เยอะเลย เหมือนกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจหรือนโยบายอื่นๆ มุมมองของแต่ละคนสำคัญมากๆ บางคนอาจจะมองว่า Brexit เป็นก้าวสำคัญสู่ความเป็นอิสระและการตัดสินใจที่สำคัญๆ ได้เองมากขึ้น ในขณะที่บางคนอาจจะมองว่าเป็นการก้าวไปสู่ความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจและความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้น ที่สำคัญที่สุดคือ ต้องไม่ลืมว่าเศรษฐกิจทุกแห่งเชื่อมโยงกันหมด Brexit เลยไม่สามารถถูกพิจารณาแบบแยกส่วนได้

วิธีเก่งเทนนิสพอที่จะเล่นแมตช์ได้ภายใน 2 เดือน

ถ้าอยากเก่งเทนนิสภายในสองเดือน ต้องทำตามนี้เลย: หาอุปกรณ์ให้พร้อม: ซื้อไม้เทนนิสดีๆ ที่เหมาะกับมือและสไตล์การเล่นของเรา แล้วก็ใส่รองเท้าที่ซัพพอร์ตด้านข้างดีๆ ด้วยนะ ฟิตร่างกาย: เทนนิสต้องวิ่งเยอะ ใช้ความอึด และมีพละกำลัง เพราะงั้นต้องออกกำลังกายเป็นประจำ ทั้งคาร์ดิโอ เวทเทรนนิ่ง และยืดเหยียด เรียนรู้เทคนิคพื้นฐาน: ต้องเข้าใจเรื่องการจับไม้ที่ถูกต้อง การตีโฟร์แฮนด์และแบ็กแฮนด์ วอลเลย์ เสิร์ฟ การใช้เท้า ฯลฯ เรียนรู้ได้จากการดูแมตช์เทนนิส อ่านหนังสือเทนนิส เรียนคอร์สออนไลน์ หรือจ้างโค้ชมืออาชีพก็ได้ ซ้อมบ่อยๆ: ยิ่งซ้อมเยอะ ก็ยิ่งเก่งขึ้น พยายามใช้เวลาในสนามให้มากที่สุด ตีลูกให้เยอะๆ หาเวลาซ้อมอย่างน้อย 5-6 ชั่วโมงต่อสัปดาห์นะ เล่นแมตช์ซ้อม: สำคัญมากที่จะเอาสิ่งที่เรียนรู้ไปใช้ในสถานการณ์จริง เข้าชมรมเทนนิส: จะได้มีโอกาสซ้อมและเล่นแมตช์กับคนที่มีฝีมือใกล้เคียงกันเยอะเลย เรียนรู้จากความผิดพลาด: ทบทวนเกมที่เล่นไป เพื่อดูว่าตรงไหนที่ยังไม่ดี แล้วก็เน้นซ้อมตรงจุดนั้นเป็นพิเศษ ถ้าอยากเก่งเทนนิสในเวลาอันสั้น ต้องมีความมุ่งมั่นและมีวินัยนะ ช่วงแรกๆ อาจจะรู้สึกยากและท้อ แต่ถ้าพยายามสม่ำเสมอและมีทัศนคติที่ดี เราก็จะพัฒนาทักษะเทนนิสได้เยอะมากภายในสองเดือน สู้ๆ นะ!