ถ้าสงสัยว่ามีใครพยายามเข้า Mac ของเราโดยไม่ได้รับอนุญาตนะ มีวิธีง่ายๆ เลยที่จะเช็กดูว่ามีคนล็อกอินไม่สำเร็จในระบบปฏิบัติการของเราหรือเปล่า
ขั้นตอนที่ 1: เปิดแอป Console
หาแอป Console ใน Mac ของเราก่อนเลย ทำได้โดยใช้ Finder แล้วไปที่ Applications > Utilities > Console ถ้าต้องเช็กบ่อยๆ คราวหน้าก็ใช้ Spotlight Search (Command + Spacebar) แล้วพิมพ์ ‘Console’ ก็ได้ จะเร็วกว่า
ขั้นตอนที่ 2: ดู System Log
ในแอป Console ทางแถบด้านข้างซ้ายมือ จะมีส่วนที่ชื่อว่า ‘Reports’ คลิกเข้าไปเลย แล้วหา ‘system.log’ ในนั้น จะมีบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ ในระบบอยู่
ขั้นตอนที่ 3: ค้นหาการล็อกอินที่พยายาม
เลือกไฟล์ ‘system.log’ อันล่าสุด แล้วพิมพ์ ‘authentication’ ในช่องค้นหาตรงมุมขวาบนของหน้าต่าง Console มันจะกรองเอาเฉพาะรายการที่เกี่ยวข้องกับการยืนยันตัวตนออกมา
ขั้นตอนที่ 4: วิเคราะห์ข้อมูล
รายการล็อกใน log ที่เกี่ยวกับการยืนยันตัวตน จะบอกว่าการพยายามยืนยันตัวตนนั้นสำเร็จหรือถูกปฏิเสธ และบอกวันที่กับเวลาที่พยายามด้วยนะ มันจะหน้าตาประมาณนี้:
com.apple.xpc.launchd[1] (com.apple.screensharing.MessagesAgent): Unknown key for Boolean: EnableTransactions
ข้อมูลที่เราสนใจมักจะอยู่ในวงเล็บแบบนี้ (com.apple.screensharing.MessagesAgent)
นั่นคือชื่อ process ที่เริ่มการพยายามล็อกอิน
ทำตามขั้นตอนเหล่านี้ เราก็จะเห็นว่ามีใครพยายามล็อกอินเข้า Mac ของเราหรือเปล่า แล้วก็จะได้จัดการเรื่องความปลอดภัยต่อไปได้ จำไว้ว่าถ้ามีการพยายามล็อกอินผิดพลาดเยอะๆ แบบผิดปกติ นั่นแหละคือสัญญาณว่ามีคนพยายามเข้าเครื่องเราโดยไม่ได้รับอนุญาตแน่ๆ
ถ้าเจอว่ามีคนพยายามล็อกอินเข้า Mac ของเราเยอะๆ แบบไม่สำเร็จ ก็ลองอัปเกรดมาตรการความปลอดภัยดู อาจจะใช้รหัสผ่านที่ซับซ้อนกว่าเดิม เปิดการยืนยันตัวตนแบบสองปัจจัย แล้วก็อัปเดตซอฟต์แวร์ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดอยู่เสมอ เพื่อให้ได้ประโยชน์จากคุณสมบัติด้านความปลอดภัยใหม่ๆ
ถึงจะไม่เจอการพยายามล็อกอินอะไรเลย ก็ยังดีที่จะเช็กเป็นครั้งคราว โดยเฉพาะถ้าเรามีข้อมูลลับที่เก็บไว้ หรือใช้ Mac ในที่สาธารณะ การเช็กบ่อยๆ จะช่วยให้ข้อมูลของเราปลอดภัยจากผู้บุกรุกได้นะ